วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

การเรียนการสอนตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ


การเรียนการสอนตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ 

พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๒ โดยเฉพาะในหมวดที่ ๔ แนวทางการจัด การศึกษา มาตรา ๒๒ ได้กล่าวไว้ว่า การจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่า ผู้เรียนทุกคนมีความสามารถ เรียนรู้และพัฒนาตนเองได้และถือว่าผู้เรียนมีความสําคัญที่สุด กระบวนการจัดการศึกษาต้องส่งเสริม ให้ผู้เรียนสามารถ พัฒนาตามธรรมชาติและเต็มศักยภาพดังนั้นผู้สอนทุกคนจึงจําเป็นต้อง ปรับเปลี่ยนบทบาทของตนเองจากการเป็นผู้บอกความรู้ให้จบไปในแต่ละครั้งที่เข้าสอนมาเป็นผู้เอื้อ อํานวยความสะดวก (Facilitator)ในการเรียนรู้ให้แก่ผู้เรียนกล่าวคือเป็นผู้กระตุ้นส่งเสริมสนับสนุนจัด สิ่งเร้าและจัดกิจกกรมให้ผู้เรียน เกิดการพัฒนาให้เต็มตามศักยภาพ ความสามารถ ความถนัด และ ความสนใจของแต่ละบุคคล การจัดกิจกรรมจึงต้องเป็นกิจกรรมที่ ผู้เรียนได้คิดวิเคราะห์วิจารณ์ สร้างสรรค์ศึกษาและค้นคว้าได้ลงมือปฏิบัติจนเกิดการเรียนรู้และค้นพบความรู้ด้วยตนเองเป็นสาระ ความรู้ด้วยตนเอง รักการอ่าน รักการเรียนรู้อันจะนําไปสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิต (Long-life Education) และเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ (Learning Man ) ผู้สอนจึงต้องสอนวิธีการแสวงหา ความรู้ (Learn how to learn ) มากกว่าสอนตัวความรู้สอนการคิดมากกว่าสอนให้ท่องจําสอนโดย เน้น ผู้เรียนเป็นสําคัญ มากกว่าเน้นที่เนื้อหาวิชา

1.    การเรียนการสอนตามพระราชบัญญัติการศึกษาชาติ

สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ (๒๕๔๔ : ๑๑๖-๑๑๙) ได้กําหนดแนวทางในการ ปฏิรูปการศึกษาระดับอุดมศึกษา ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพุทธศักราช ๒๕๔๒ ในด้าน การ เรียนการสอนในประเด็นต่างๆ ต่อไปนี้
๑. แต่ละสถาบันต้องกําหนดเป้าหมายและภารกิจที่ชัดเจนตามความพร้อมและความ เชี่ยวชาญ เฉพาะของแต่ละสถาบัน ทั้งนี้สถาบันอุดมศึกษาที่มุ่งเน้นการจัดการศึกษาเพื่อปวงชน ต้องแสวงหา ๑ วิธีการจัดการศึกษา และยุทธศาสตร์ที่จะสามารถเข้าถึงผู้เรียนได้มากที่สุด
๒. การพัฒนาหลักสูตร ต้องดําเนินการอย่างต่อเนื่อง และพิจารณาถึงความสอดคล้องกับ ความ ต้องการของสังคม ธุรกิจ อุตสาหกรรม สาระของหลักสูตร นอกจากมุ่งพัฒนาบัณฑิตอย่าง สมดุล ทั้ง ความรู้ความสามารถและความดีงามแล้ว ยังต้องมุ่งเน้นการพัฒนาวิชาการ วิชาชีพชั้นสูง และการ ค้นคว้าวิจัยเพื่อพัฒนาองค์ความรู้และพัฒนาสังคม
 ๓. รูปแบบการจัดหลักสูตรการเรียนการสอน ต้องมีความหลากหลายตามความต้องการ ของ ผู้เรียน โดยไม่จํากัดวัน เวลา สถานที่ เพื่อเอื้อต่อการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต (Life -Long Learning) โดยนอกจากจะจัดภายในสถาบันอุดมศึกษาแล้ว จะต้องพัฒนารูปแบบให้มีความ ยืดหยุ่น หลากหลายขึ้น อาทิการจัดร่วมกับสถานประกอบการในโปรแกรมพิเศษประเภทต่างๆ เป็นต้น
๔. การจัดการเรียนการสอน และการจัดกิจกรรมเสริม ต้องยึดผู้เรียนเป็นหลัก โดยต้องเน้น ความสําคัญทั้งความรู้คุณธรรม และกระบวนการเรียนรู้โดยคณาจารย์ผู้สอนควรทํา หน้าที่ส่งเสริม สนับสนุนการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาเต็มตามศักยภาพ
๕. ปฏิรูปกระบวนการเรียนการสอน หลักสูตร ให้ก้าวทันความเปลี่ยนแปลงและเพื่อสร้าง บัณฑิต ที่พึงประสงค์มีความใฝ่รู้สามารถคิดวิเคราะห์วิจารณ์ริเริ่ม สร้างสรรค์มีความรับผิดชอบ และมีคุณธรรม จริยธรรม ควบคู่กับความรู้ความสามารถในสาขาวิชาต่างๆ
๖. ให้มีการกําหนดมาตรฐานหลักสูตร โครงสร้างหลักสูตร การรับรองหลักสูตรของ สถาบันอุดมศึกษาแต่ละประเภทที่เป็นมาตรฐานเดียวกันสําหรับอุดมศึกษาแต่ละระดับ
๗. ให้ความสําคัญกับการลงทุนเพื่อการวิจัย สร้างองค์ความรู้และเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนา ประเทศ รวมทั้งการพัฒนานวัตกรรมการเรียนการสอน
๘. ปรับระบบการประเมินและวัดผลการศึกษาระดับอุดมศึกษาเพื่อเอื้อต่อการพัฒนา คุณลักษณะที่พึงประสงค์โดยพิจารณาจากความประพฤติการสังเกต พฤติกรรม การร่วมกิจกรรม ควบคู่ กับการทดสอบตามความเหมาะสม ๙. นําเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการเรียนการสอน การจัดกิจกรรมและการบริหารจัดการ ทั้ง เพื่อพัฒนาคุณภาพ และกระจายโอกาสทางการศึกษาอย่างกว้างขวางและทั่วถึง การจัดกระบวนการเรียนตามแนวทางของสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ (๒๕๔๓ : ๕.๑๓) แสดงลักษณะผู้เรียนและกระบวนการเรียนรู้ที่พึงประสงค์ไว้ดังนี้ 

คนดี
ดําเนินชีวิตอย่างมีคุณธรรม
ดีทั้งใจและพฤติกรรม
มีวินัยต่อตนเองและสังคม
จิตใจดีงาม มีคุณธรรม จริยธรรม ๒
อยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข
มีจิตใจเป็นประชาธิปไตย
ควบคมตนเองได้
พัฒนาตนเองเต็มศักยภาพ
ทํางานเพื่อส่วนรวม
คนเก่ง
มีความรอบรู้มีความรู้ทั้งไทยและสากล
มีความสามารถพิเศษเฉพาะทาง
มีความคิดสร้างสรรค์มีทักษะ
เป็นผู้นําผู้ตามที่ดี
ทันโลกทันเทคโนโลยี
เรียนรู้ดัวยตนเองได้
รักที่จะเรียนรู้ตลอดชีวิต
รู้จักตนเอง
แก้ปัญหาเป็น
กล้าแสดงออก
มีความสุข
ร่างกายแข็งแรง ร่าเริงแจ่มใส
จิตใจเข้มเข็ง
มีความสุขในการเรียนรู้และการทํางาน
มีความรักต่อทุกสรรพสิ่ง
มนุษยสัมพันธ์ดี
ปลอดพันจากอบายมุข
ลักษณะการเรียนรู้ที่พึงประสงค์
เป็นกระบวนการทางปัญญา พัฒนาผู้เรียนอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต
เรียนอย่างมีความสุข เน้นประโยชน์ของ ผู้เรียนเป็นสําคัญ
บูรณาการสาระการเรียน สอดคล้องกับความสนใจ ทันสมัยตามสภาพจริง
เป็นกระบวนการคิด และการปฏิบัติจริง นําไปใช้ประโยชน์ได้
เป็นกระบวนการเรียนร่วมกัน โดยมีผู้เรียนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายร่วมจัดบรรยากาศที่เอื้อ ต่อการเรียนเรียน การจัดกระบวนการเรียนตามแนวพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพ.ศ. ๒๕๔๒ มีขั้นตอน สําคัญ ดังต่อไปนี้คือ (สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ, ๒๕๔๓ : ๒๙)
๑. การสํารวจความต้องการ ความสนใจของผู้เรียน สํารวจพื้นฐานความรู้เดิม
๒. การเตรียมการ ครูเตรียมเกี่ยวกับสาระการเรียนและองค์ประกอบอื่นๆ ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ วางแผนการเรียนการสอน
๓. การดําเนินกิจกรรมการเรียน เช่น ขั้นนําเข้าสู่บทเรียน ขั้นการจัดกิจกรรมการเรียน ขั้น วิเคราะห์อภิปรายผลงาน/องค์ความรู้ที่สรุปไต้จากกิจกรรมการเรียนวิเคราะห์อภิปรายกระบวนการ เรียนรู้
๔. การประเมินผล
๕. การสรุปและนําไปประยุกต์ใช้

๑.๒ กระบวนการเรียนที่เน้นผู้เรียนเป็นสําคัญ

สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติไต้กําหนดลักษณะกระบวนการจัดการเรียนที่เน้น ผู้เรียนเป็นสําคัญไว้๙ ประการ คือ
๑. มีการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนหลากหลายเหมาะสมกับผู้เรียน
๒. กระตุ้นให้ผู้เรียนรู้จักคิดวิเคราะห์คิดสังเคราะห์และคิดสร้างสรรค์
๓. กระตุ้นให้ผู้เรียนรู้จักศึกษาหาความรู้แสวงหาคําตอบ และสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง
๔. นําภูมิปัญญาท้องถิ่น เทคโนโลยีและสื่อที่เหมาะสมมาประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียน การสอน
๕. ฝึกและส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมของผู้เรียน
๖. ผู้เรียนได้รับการพัฒนาสุนทรียภาพอย่างครบถ้วนทั้งด้านดนตรีศิลปะ และกีฬา
๗. ส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตย การทํางานร่วมกับผู้อื่น และความรับผิดชอบต่อกลุ่ม ร่วมกัน
๘. จัดกิจกรรมให้ผู้เรียนรักสถานศึกษาของตนเอง และมีความกระตือรือร้นในการเรียน
๙. ประเมินพัฒนาการผู้เรียนด้วยวิธีการที่หลากหลายและต่อเนื่อง

๑.๓ บทบาทของครู

 ทิศนา แขมมณี (๒๕๔๗ : ๓๖-๓๗) ได้กล่าวถึงบทบาทของครูและได้ให้ข้อเสนอแนะสําหรับ ครูผู้สอนไว้ดังนี้ ข้อเสนอแนะสําหรับครู
๑. ในการศึกษาเกี่ยวกับการสอน ครูพึงให้ความสนใจในหลักการมิใช่มุ่งความสนใจที่เทคนิค วิธีการเท่านั้น ครูควรพยายามทําความเข้าใจในหลักการ จําหลักการให้แม่น และหมั่นประยุกต์ใช้หลักการนั้นในสถานการณ์ที่หลากหลาย
๒. ครูพึงศึกษาแนวความคิด ความเชื่อ หรือหลักการต่างๆ ซึ่งมีอยู่อย่างหลากหลาย และ เลือกสรรสิ่งที่ตนเชื่อถือ หมั่นวิเคราะห์การคิดและการกระทําของตนว่าสอดคล้องกัน หรือไม่ และศึกษา ผลการกระทํา เพื่อปรับเปลี่ยนหรือยืนยันแนวความคิด ความเชื่อมั่นต่อไป
๓. ครูพึงเปิดใจกว้างในการศึกษาแนวความคิด ความเชื่อ หรือหลักการต่างๆ ที่แตกต่าง ไป จากความคิดของตน และเปิดโอกาสให้ตนเองได้มีประสบการณ์ในสิ่งที่แตกต่างออกไป โดยการทดลอง ปฏิบัติหรือศึกษา วิจัย เพื่อพิสูจน์ทดสอบแนวคิดใหม่ๆ อันอาจจะ นํามาซึ่งทางเลือกใหม่ๆ ทําให้การ เรียนการสอนมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น มีความคิดแปลกใหม่มีชีวิตชีวา น่าตื่นเต้น และน่าเรียนรู้ทั้งสําหรับ ครูและผู้เรียน
สุคนธ์สินธุพานนท์และคณะ (๒๕๔๕ : ๑๗ - ๑๘ )กล่าวถึงบทบาทของผู้สอนในการดําเนินงาน ตามกระบวนการปฏิรูปการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะตามมาตรฐานการศึกษานั้น ผู้สอน ทุกคน จะต้องมีส่วนร่วมในกระบวนการดังต่อไปนี้
๑. การส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือกับชุมชน การที่ผู้สอนจะสามารถจัด กิจกรรม การเรียนรู้เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะตามมาตรฐานการศึกษาเป็นผลสําเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ นั้น จะต้องได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหารและชุมชนในการพัฒนาการศึกษา ดังนั้น ผู้บริหารและ ผู้สอนจะต้องร่วมกันสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชนในการร่วมกันจัดการศึกษา ซึ่งผู้ปกครองและชุมชน เข้ามามีบทบาทในการพัฒนาการศึกษา และมีการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้าง ความเข้าใจระหว่างกัน
๒. การจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ผู้สอนจะต้องคํานึงถึงสภาพแวดล้อมซึ่งเป็น บรรยากาศที่เอื้ออํานวยต่อการเรียนรู้การจัดบรรยากาศในห้องเรียนและนอกห้องเรียนให้เหมาะสม ต่อ การเรียนรู้มีสื่อการสอนที่เร้าความสนใจผู้เรียน ตลอดจนการดําเนินกิจกรรมในบรรยากาศแห่ง ความเป็น กัลยาณมิตรยอมเอ ่ ื้อต่อการพัฒนาการเรียนรู้
๓. การพัฒนางานของตนเอง ผู้สอนจะต้องแสวงหาความรู้และประสบการณ์เพื่อนํามาใช้ใน การพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้และการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับการปฏิรูปการ เรียนรู้ตลอดจนมีการแลกเปลี่ยนผลการปฏิบัติงานที่ประสบความสําเร็จระหว่างกัน
๔. การจัดการเรียนรู้สอดคล้องกับหลักสูตร ความต้องการของผู้เรียนและท้องถิ่นผู้สอน จะต้องให้ความร่วมมือกับสถานศึกษาในการพัฒนาหลักสูตร ให้สอดคล้องกับสภาพและความ ต้องการ ของท้องถิ่นโดยให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม และมีการจัดแนวการเรียนการสอนให้สอดคล้อง กับหลักสูตร ตามความต้องการของผู้เรียน ความต้องการของท้องถิ่นและการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม ให้ สามารถเชื่อมโยงแก้ไขปัญหาท้องถิ่นได้และเน้นการปฏิบัติจริง ๕. กระบวนการจัดการเรียนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสําคัญ ผู้สอนทุกคนควรจะได้ทําความ เข้าใจให้ กระจ่างชัดในความหมาย และลักษณะของการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียน เป็นสําคัญ เพื่อ จะได้ปฏิบัติได้ถูกต้อง พิมพันธ์เดชะคุปต์และพเยาว์ยินดีสุข (๒๕๕๑ : ๒๓-๒๔) กล่าวถึงการจัดการเรียน การสอนที่
๕ เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ทําให้ผู้สอนในยุคปัจจุบันต้องปรับเปลี่ยนบทบาทและเสนอ บทบาทไว้ดังนี้
บทบาทของครูในยุคปัจจุบัน ครูต้องสอนหรือฝึกผู้เรียน ดังนี้
๑. ฝึกคิด คือ สอนให้ผู้เรียนคิดเองเป็น
๒. ฝึกให้ผู้เรียนศึกษาค้นคว้า ศึกษาให้ลึกซึ้งในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง และมีการวิจัยค้นคว้า
๓. ฝึกให้ผู้เรียนบริการสังคม คือ สิ่งที่เรียนจะมีคุณค่า เมื่อได้ใช้ความรู้นั้นให้เป็นประโยชน์ต่อ สังคม ครูเป็นภูมิปัญญาที่สําคัญในการพัฒนาให้ผู้เรียนตั้งแต่ตัวเล็กๆ ซึ่งเป็นประชากรที่สําคัญของโลก ครูต้องเป็นตัวทวีคูณในการนําเด็กเข้าสู่ระบบของการเรียนรู้บทบาทของครูจึงเปลี่ยนไป จากผู้ให้ความรู้ ผู้บอกความรู้ (Telling, Talking) มาเป็นผู้ไห้ผู้เรียนใช้กระบวนการ (Process) คิดค้นหาความรู้ด้วยตนเอง ตลอดจนแก้ปัญหาด้วยตนเอง ครูจึงเปลี่ยนบทบาทจากผู้สอน (Teacher) มาเป็น ผู้อํานวยความสะดวก (Facilitator) คือเป็นผู้เตรียมประสบการณ์สื่อการเรียนการสอนให้ผู้เรียนใช้ศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง
การจัดการเรียนการสอนเพื่อให้ผู้เรียนเป็นผู้มีคุณภาพคือดีมีปัญญาคือเก่ง และเป็นผู้มีความสุข คือ สุขภาพกาย และจิตดีโดยสรุปเป็นประชาชนที่ดีเก่ง สุข เป็นประชาชนที่มองกว้าง คิดไกล ใฝ่รู้เชิด ชูคุณธรรมนั้น ต้องเป็นการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
ที่มา http://attaphiwat.ac.th/about

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คำถามท้ายบทที่ 1 - 7

คำถามท้ายบทที่ 1 1. เมื่อนักศึกษาได้ศึกษาหา เรื่อง แนวคิดการออกแบบการเรียนรู้การสอนในบทที่ 1 ท่านคิดว่า การออกแบบการเรียนการสอนมีความ...